ฮุน มาเนต วัย 45 ปี เริ่มการหาเสียงวันสุดท้ายด้วยการปราศรัยต่อผู้สนับสนุนราว 30,000 คน ก่อนนำขบวนรถยนต์ ตุ๊กตุ๊ก และมอเตอร์ไซค์ แห่ไปทั่วกรุงพนมเปญ และที่น่าสนใจคือ การหาเสียงในวันนี้ สมเด็จฯ ฮุน เซน ผู้เป็นบิดา ไม่ได้มาร่วมด้วย
ฮุน มาเนต กล่าวระหว่างปราศรัยว่า ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นแล้วว่า มีเพียงพรรคประชาชนกัมพูชาเท่านั้น ที่จะสามารถนำความปลอดภัยและสงบสุขมายังกัมพูชาได้ ขณะเดียวกันก็กล่าวหากลุ่มสุดโต่งว่า พยายามทำลายการเลือกตั้งที่จะมาถึง พร้อมระบุว่า ชาวกัมพูชามองเห็นอุบายสกปรกทั้งหมด
นักวิจารณ์ตั้งคำถามถึงความชอบธรรมของการเลือกตั้งกัมพูชา
“ลูกชายฮุน เซน” เปิดแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งพรรคประชาชนกัมพูชา
“ฮุน เซน” เผยพร้อมร่วมงานกับผู้นำไทยทุกคน ไม่ว่าเป็นใครหรือมาจากพรรคใด
นอกจากนี้ เขายังย้ำกับผู้สนับสนุนด้วยว่า ให้ใช้สิทธิลงคะแนนอย่างถูกต้อง ไม่ทำบัตรเสีย และเลือกพรรคประชาชนกัมพูชา เพื่อพรรคจะได้คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลาย
การลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งแรกของ ฮุน มาเนต ถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนสุดท้ายในกระบวนการเตรียมพร้อมเพื่อสืบทอดอำนาจต่อจากสมเด็จฯ ฮุน เซน ที่กินเวลานานหลายสิบปี
เมื่อปี 2021 สมเด็จฯ ฮุน เซน ได้เสนอชื่อ ฮุน มาเนต ให้เป็นผู้สืบทอด ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน พรรคประชาชนกัมพูชาก็ได้รับรอง ฮุน มาเนต ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีกัมพูชาคนต่อไป หลังจากสมเด็จฯ ฮุน เซน พ้นวาระ
ก่อนจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้นั้น ฮุน มาเนต จะต้องเป็นสมาชิกสภารัฐสภาเสียก่อน ซึ่งเขาจะได้เป็น สส. หากคว้าที่นั่งในการเลือกตั้งวันอาทิตย์นี้ได้ และได้รับการเห็นชอบจากกษัตริย์กัมพูชา
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การเปลี่ยนผ่านทางการเมืองนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ขณะที่นักวิชาการบางคนตั้งข้อสังเกตว่า การเลือกตั้งวันอาทิตย์นี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายของสมเด็จฯ ฮุน เซน
สำหรับหลายๆ คน ฮุน มาเนต เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่จะทำให้กัมพูชาพัฒนาไปได้ไกลยิ่งขึ้น ฮุน มาเนต เติบโตและได้รับการศึกษาทั่วไปในกรุงพนมเปญ ก่อนที่สมเด็จฯ ฮุน เซนจะส่งไปเรียนที่วิทยาลัยการทหารแห่งสหรัฐอเมริกา (เวสต์พอยต์) ในปี 1999 และเป็นชาวกัมพูชาคนแรกที่สำเร็จการศึกษาจากที่นั่น
จากนั้น เขาได้สำเร็จการศึกษาปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก และศึกษาต่อในด้านเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยบริสทอลในประเทศอังกฤษจนจบปริญญาเอก
ในปี 2003 ฮุน มาเนต ได้บอกกับทีมผู้เขียนหนังสือชีวประวัติของสมเด็จฯ ฮุน เซนว่า เขาชื่นชมวัฒนธรรมอเมริกันในหลายๆ ด้าน เช่น การที่ประชาชนมีเสรีภาพและโอกาสที่จะทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการ ความอดกลั้นต่อความแตกต่าง และการมองสิ่งต่างๆ จากหลายๆ มุม ฮุน มาเนตบอกด้วยว่า ประเทศต้องมีการพัฒนาระดับหนึ่งก่อนที่ประชาธิปไตยจะทำหน้าที่ของมันได้ ไม่เช่นนั้นก็จะถูกควบคุมได้ง่ายด้วยเงิน
ระหว่างที่ศึกษาต่ออยู่ในต่างประเทศ ฮุน มาเนตก็ได้รับการเลื่อนขั้นในกองทัพกัมพูชา จากหน่วยอารักขานายกรัฐมนตรี เป็นผู้บัญชาการหน่วยต่อต้านก่อการร้าย ผู้บัญชาการทหารบก และรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดกัมพูชา จนล่าสุด ได้รับการประดับยศนายพล 4 ดาว
อย่างไรก็ตาม สมเด็จฯ ฮุน เซน เคยกล่าวไว้ว่า เขาคาดหวังให้ทายาทของเขาปกครองกัมพูชาตามแบบอย่างของเขา ไม่เช่นนั้นแล้ว เขาก็อาจจะเอาอำนาจคืนคำพูดจาก นสล็อตออนไลน์
ที่ผ่านมา ทางการกัมพูชาถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า พยายามปราบปรามฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองและผู้เห็นต่างก่อนการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคแสงเทียน (CLP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก ถูกตัดสิทธิจากการเลือกตั้งครั้งนี้ หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งระบุว่า ยื่นเอกสารลงทะเบียนไม่ครบตามเกณฑ์ที่กำหนดขึ้นมาใหม่ ทำให้พรรคประชาชนกัมพูชา แทบจะไร้คู่แข่ง เนื่องจากพรรคอื่นๆ อีก 18 พรรค ที่ลงเลือกตั้ง ล้วนเป็นพรรคเล็กพรรคน้อย และไม่น่าจะแข่งขันกับพรรคของสมเด็จฯ ฮุน เซนได้
ขณะเดียวกัน มีนักเคลื่อนไหวทางการเมืองบางส่วนเรียกร้องให้ชาวกัมพูชาบอยคอตต์การเลือกตั้งครั้งนี้ หรือทำบัตรเสียเพื่อประท้วง แต่รัฐสภากัมพูชาก็แก้ไขกฎหมายเลือกตั้ง กำหนดให้ผู้ที่ไม่ไปสิทธิในการเลือกตั้งวันที่ 23 ก.ค. จะถูกตัดสิทธิจากการเลือกตั้งในอนาคต นอกจากนี้ ผู้ที่ชักชวนให้ผู้อื่นไม่ไปเลือกตั้งอาจถูกปรับ 5 – 20 ล้านเรียล (ประมาณ 40,000 – 165,000 บาท) ขณะที่ผู้ที่ยุยงให้ประชาชนทำบัตรเสียอาจถูกดำเนินคดีด้วย
โดยเมื่อช่วงต้นเดือน สมาชิกพรรคแสงเทียนสองคนถูกจับกุม โดยถูกกล่าวหาว่ายุยงให้ประชาชนทำลายบัตรเลือกตั้ง ขณะที่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (17 ก.ค.) กกต.กัมพูชาได้ตัดสิทธิทางการเมืองนายสม รังสี ผู้นำฝ่ายค้าน และสมาชิกพรรคคนอื่นๆ อีก 16 คน เป็นเวลา 25 ปี ด้วยเหตุผลเดียวกัน
องค์กรฮิวแมน ไรทส์ วอทช์ ได้เรียกร้องให้ทางการกัมพูชาหยุดคุกขามและดำเนินคดีสมาชิกและนักกิจกรรมจากพรรคแสงเทียน โดยระบุว่า รัฐบาลกัมพูชาได้ปล้นสิทธิของชาวกัมพูชาจำนวนมากที่จะโหวตให้พรรคที่ตัวเองเลือก ซึ่งพวกเขามีสิทธิที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนั้น
ขณะที่เครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในกรุงเทพฯ ระบุว่า การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในกัมพูชา จะยังขาดความเป็นอิสระและเป็นธรรม โดยการกีดกันพรรคแสงเทียนจากการเลือกตั้งถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการจำกัดพื้นที่ทางการเมือง และริดรอนพรรคฝ่ายค้านอย่างร้ายแรง
อย่างไรก็ตาม โฆษกพรรคประชาชนกัมพูชาบอกกับหนังสือพิมพ์สเตรทไทมส์ว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งกัมพูชาดำเนินการตามกฎระเบียบทุกประการ ขณะที่ทางพรรคหวังว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ภาพจาก: AFP